"วันเสาร์นี้ผมหยุดนะ"
"ว้าววว... จริงเหรอ"
คำว่าว้าวที่เธอตอบผมกลับมา มันดูมีความสุขมากจนผมฉุกใจ
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อนโน่น
"แจ๊คไม่ได้หยุดเลยนะ"
แม้รู้สึกได้ถึงความห่วงใยในน้ำเสียง แต่ผมตอบกลับว่า
"ถ้าคนเรานอนแค่สี่ชั่วโมงแล้วไม่เพลียก็ดีสินะ เวลาไม่พอจริงๆ"
"เมื่อไรเวลาถึงจะมีพอสำหรับแจ๊คล่ะ" เธอตอบพร้อมกับหันหลังกลับ
คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบอย่างนี้..ทำให้ผมฉุกใจ
แม้ว่า..
ผมจะทิ้งความรู้ที่ได้จากการเป็นสายดำซิกซิกม่าไปพร้อมกับใบลาออกจากงานเก่า
อยู่ๆก็ฉุกใจ..ระลึกนึกถึง
"ทุกความแปรปรวนคือปีศาจ"
เจนอิจิ ทากูชิ วิศวกรชาวญี่ปุ่นได้กล่าวไว้
คำพูดที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และถูกขนานนามว่า หลักปรัญชาของทากูชิ
อันเป็นพื้นฐานความคิด ที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มผลผลิตของกระบวนการผลิต
มาสเตอร์เจไดผู้สอนซิกซิกม่าแก่ผมท่านหนึ่งได้เอาปรัญชานี้..
ไปอธิบายเวลาการมาทำงานในตอนเช้าของมนุษย์เงินเดือนว่า
ไปทำงานสายไม่ดี ไปทำงานเร็วก็ไม่ดี
เพราะความแปรปรวนคือปีศาจ..
ที่ดีที่สุดคือไปให้ตรงเวลาพอดี
ท่านพูดเสร็จ ก็ปล่อยให้คนฟังนั่งคิดพักหนึ่ง...
ใครๆก็พอรู้ว่า..ไปทำงานสายไม่ดี
แต่ไปทำงานเร็วมันเป็นปิศาจยังไงล่ะ ดีจะตาย..เจ้านายรัก
เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินอะไรแปลกๆอย่างนี้
แล้วท่านก็พูดต่อ ก่อนที่ใครจะคิดเลยเถิดไปไกล...
มันเป็นปิศาจ เพราะคุณได้ทิ้งเวลาที่จะอยู่กับคนที่คุณรักที่โต๊ะอาหารเช้านะสิ
บริษัทได้ที่คุณมาทำงานให้เขาเร็ว แต่ครอบครัวคุณเสีย
ขอบคุณทากูชิ คุณมากระตุกให้ผมได้คิด
ให้อะไรคงไม่มีความสุข เท่ากับให้เวลากับคนที่คุณรัก
แต่จะมีความสุขยิ่งกว่า...ถ้าให้เวลากับคนที่รักคุณ
วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Happiness you can share
ในข้อดีของอินเตอร์เน็ท คือทำให้สืบหาเพื่อนที่ไม่เจอมานานได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพื่อนมัธยมปลายมาคอมเม้นให้..
เขามาเจอบล๊อคนี้อย่างบังเอิญโดยอิทธิฤทธิ์ของกูเกิล
แต่เพื่อนไม่ลงชื่อไว้ เลยไม่รู้เลยว่าเป็นท่านใด
Happiness you can drink ..สโลแกนของเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง
"ความสุขที่คุณดื่มได้"..น่าจะเป็นคำแปลตรงๆของมัน
แต่เพื่อนผู้น่ารักทั่นหนึ่งของผม...ผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดบ้านเกิดอยู่หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย
แปลมันด้วยนำเนียงคนเมืองกาญจน์ว่า "ไม่หมด หมา...”
เพื่อนผู้รักบ้านเกิดท่านนี้..
จะโกรธเสมอถ้าใครไปกล่าวหา..น้ำตกไทรโยคน้อย..ว่า.
น้ำไหลน้อยยังกับน้ำ(ที่ใช้เครื่องสูบน้ำ)ปั่น
เมื่อก่อนผมจะดั้นด้นไปกาญจนบุรีตอนปีใหม่ทุกปี
เพื่อไปนั่งกินเหล้าทั้งวันทั้งคืนกับมัน..
วิถีชีวิตสมัยเรียนปอตรีของผม
กลางคืนอยู่หาดบางแสนตั้งวง กลางวันไปหลับอยู่กับกองหนังสือที่ห้องสมุด
นั้นทำให้เพื่อนส่วนหนี่งมองว่าผมเป็นขี้เมาพอๆกับ..
เพื่อนส่วนหนึ่งที่มองว่าผมเป็นหนอนหนังสือ
มีคนเคยตั้งคำถามว่า.. "ทำไมผมถึงชอบกินเหล้านักหนา"
ผมขอหยิบประโยคสุดคลาสิคของ"โกว้เล้ง"นักเขียนท่านโปรดของผมมาตอบ
"ข้าพเจ้ามิได้ชอบสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศในการร่ำสุราต่างหาก"
มันคงคล้ายๆกับที่ผู้หญิงนั่งล้อมวงส้มตำ แล้วเมาส์กัน
Happiness you can drink/eat and talk..
นั้น..มันชีวิตตอนยังคึกคะนอง แต่ตอนนี้ชีวิตขี้เมาหายไป
กลับมาอยู่กับหนังสือเอามากๆ จนลืมรสสุราไปเลย
หากจะถามว่า "ทำไมผมชอบอ่านหนังสือมากมาย"
ผมขอถามกลับว่า "ทำไมคนทั่วไปถึงชอบดูหนังกัน"
มันคงเป็นเหตุผลเดียวกัน...
ชีวิตการอ่าน..ที่เริ่มจากการแย่งอ่านนิยายกับพ่ออย่างผม
การอ่านหนังสือคือการแสวงหาความบันเทิงและความสุขให้กับตัวเอง
หลายคนมองว่าการอ่านหนังสือ มันเป็นเรื่องของเด็กเรียน เรื่องของเด็กเนิร์ด
หลายคนมองว่าพวกหนอนหนังสือ คือพวกทฤษฎีจัด ชีวิตเครียด ไม่ผ่อนคลาย
โดยลืมว่า หนังสือมีมากหลากหลายประเภท..
ถ้าเมื่อไรที่คิดได้ว่า Happiness you can read.. เมื่อนั้นน่าจะมีคนอ่านหนังสือมากขึ้นนะ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ส่งเมล์ที่มีเนื้อหาตามลิงส์นี้ให้หลายคนได้อ่านกัน
http://www.lonelytrees.net/?p=2041
ผมได้ถามความรู้สึกของผู้หญิงที่น่ารักท่านหนึ่ง หลังจากที่บังคับให้เธออ่านเรื่องนี้จนจบ
เธอตอบว่า เธอทึ่งกับสาวน้อยโยชิ
เธอตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แค่ประโยคนั้น แต่ถามกลับมายังผมว่า..
หนอนมันไม่มีตาจริงนะเหรอ พร้อมทำหน้าแขยงสุดขีด
เกิดมาผมไม่เคยคิดว่า คนปกติทั่วไปที่ไม่ใช่ดารา จะกลัวอะไรมากมายขนาดนั้น
แค่เพียงเอ๋ยชื่อก็ยังกลัว ...แต่เธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ส่วนตัวผม ผมอ่านแล้วรู้สึกดีกับบุคคลอย่างโยชิเอามากๆ
เธอเป็นหนอนหนังสือตาบอดที่อยากแบ่งบันความสุขจากการอ่านให้คนตาดีหรือตาไม่ดีได้รับรู้เช่นเดียวกับเธอ..
ผมในฐานะหนอนหนังสือคนหนึ่งรู้สึกชื่นชมกับสิ่งที่เธอกำลังทำจริงๆ
ที่เล่ามาเยอะแยะมากมาย ไม่มีอะไรหรอกครับ
ผมแค่อยากจะบอกว่า หนอนหนังสืออย่างผมก็อยากแบ่งปันความสุขจากอ่านให้ท่านอื่นบ้างเหมือนกัน
ผมจึงได้สมัครเป็นอาสาสมัครของ Always Reading Caravan (ARC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
.
.
เพราะผมคิดว่า Happiness you can share...
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพื่อนมัธยมปลายมาคอมเม้นให้..
เขามาเจอบล๊อคนี้อย่างบังเอิญโดยอิทธิฤทธิ์ของกูเกิล
แต่เพื่อนไม่ลงชื่อไว้ เลยไม่รู้เลยว่าเป็นท่านใด
Happiness you can drink ..สโลแกนของเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง
"ความสุขที่คุณดื่มได้"..น่าจะเป็นคำแปลตรงๆของมัน
แต่เพื่อนผู้น่ารักทั่นหนึ่งของผม...ผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดบ้านเกิดอยู่หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย
แปลมันด้วยนำเนียงคนเมืองกาญจน์ว่า "ไม่หมด หมา...”
เพื่อนผู้รักบ้านเกิดท่านนี้..
จะโกรธเสมอถ้าใครไปกล่าวหา..น้ำตกไทรโยคน้อย..ว่า.
น้ำไหลน้อยยังกับน้ำ(ที่ใช้เครื่องสูบน้ำ)ปั่น
เมื่อก่อนผมจะดั้นด้นไปกาญจนบุรีตอนปีใหม่ทุกปี
เพื่อไปนั่งกินเหล้าทั้งวันทั้งคืนกับมัน..
วิถีชีวิตสมัยเรียนปอตรีของผม
กลางคืนอยู่หาดบางแสนตั้งวง กลางวันไปหลับอยู่กับกองหนังสือที่ห้องสมุด
นั้นทำให้เพื่อนส่วนหนี่งมองว่าผมเป็นขี้เมาพอๆกับ..
เพื่อนส่วนหนึ่งที่มองว่าผมเป็นหนอนหนังสือ
มีคนเคยตั้งคำถามว่า.. "ทำไมผมถึงชอบกินเหล้านักหนา"
ผมขอหยิบประโยคสุดคลาสิคของ"โกว้เล้ง"นักเขียนท่านโปรดของผมมาตอบ
"ข้าพเจ้ามิได้ชอบสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศในการร่ำสุราต่างหาก"
มันคงคล้ายๆกับที่ผู้หญิงนั่งล้อมวงส้มตำ แล้วเมาส์กัน
Happiness you can drink/eat and talk..
นั้น..มันชีวิตตอนยังคึกคะนอง แต่ตอนนี้ชีวิตขี้เมาหายไป
กลับมาอยู่กับหนังสือเอามากๆ จนลืมรสสุราไปเลย
หากจะถามว่า "ทำไมผมชอบอ่านหนังสือมากมาย"
ผมขอถามกลับว่า "ทำไมคนทั่วไปถึงชอบดูหนังกัน"
มันคงเป็นเหตุผลเดียวกัน...
ชีวิตการอ่าน..ที่เริ่มจากการแย่งอ่านนิยายกับพ่ออย่างผม
การอ่านหนังสือคือการแสวงหาความบันเทิงและความสุขให้กับตัวเอง
หลายคนมองว่าการอ่านหนังสือ มันเป็นเรื่องของเด็กเรียน เรื่องของเด็กเนิร์ด
หลายคนมองว่าพวกหนอนหนังสือ คือพวกทฤษฎีจัด ชีวิตเครียด ไม่ผ่อนคลาย
โดยลืมว่า หนังสือมีมากหลากหลายประเภท..
ถ้าเมื่อไรที่คิดได้ว่า Happiness you can read.. เมื่อนั้นน่าจะมีคนอ่านหนังสือมากขึ้นนะ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ส่งเมล์ที่มีเนื้อหาตามลิงส์นี้ให้หลายคนได้อ่านกัน
http://www.lonelytrees.net/?p=2041
ผมได้ถามความรู้สึกของผู้หญิงที่น่ารักท่านหนึ่ง หลังจากที่บังคับให้เธออ่านเรื่องนี้จนจบ
เธอตอบว่า เธอทึ่งกับสาวน้อยโยชิ
เธอตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แค่ประโยคนั้น แต่ถามกลับมายังผมว่า..
หนอนมันไม่มีตาจริงนะเหรอ พร้อมทำหน้าแขยงสุดขีด
เกิดมาผมไม่เคยคิดว่า คนปกติทั่วไปที่ไม่ใช่ดารา จะกลัวอะไรมากมายขนาดนั้น
แค่เพียงเอ๋ยชื่อก็ยังกลัว ...แต่เธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ส่วนตัวผม ผมอ่านแล้วรู้สึกดีกับบุคคลอย่างโยชิเอามากๆ
เธอเป็นหนอนหนังสือตาบอดที่อยากแบ่งบันความสุขจากการอ่านให้คนตาดีหรือตาไม่ดีได้รับรู้เช่นเดียวกับเธอ..
ผมในฐานะหนอนหนังสือคนหนึ่งรู้สึกชื่นชมกับสิ่งที่เธอกำลังทำจริงๆ
ที่เล่ามาเยอะแยะมากมาย ไม่มีอะไรหรอกครับ
ผมแค่อยากจะบอกว่า หนอนหนังสืออย่างผมก็อยากแบ่งปันความสุขจากอ่านให้ท่านอื่นบ้างเหมือนกัน
ผมจึงได้สมัครเป็นอาสาสมัครของ Always Reading Caravan (ARC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
.
.
เพราะผมคิดว่า Happiness you can share...
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)